วิธีการปลูกพืชฤดูแล้ง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยคณะทำงานวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งได้กำหนดแผนการจัดสรรน้ำและการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2554/55 ทั้งประเทศ จำนวน 19.23 ล้านไร่ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 5 ล้านไร่ แยกเป็นข้าวนาปรัง 16.70 ล้านไร่ และพืชไร่-ผัก 2.53 ล้านไร่ โดยพื้นที่การเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในเขตชลประทานพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 23 จังหวัด ได้กำหนดพื้นที่ปลูก 12.24 ล้านไร่ แยกเป็นข้าวนาปรัง 11.57 ล้านไร่ และพืชไร่-ผัก 0.67 ล้านไร่
สำหรับการผลิตพืชในฤดูแล้งปี 2554/55 นั้น พบว่าแนวโน้มด้านการตลาดของข้าวนาปรังจะยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากความต้องการข้าวของโลกยังคงมีมาก ประกอบกับนโยบายรับจำนำของภาครัฐที่กำหนดราคารับจำนำในราคาสูง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ราคาจะสูงขึ้นเล็กน้อย ถั่วเขียว ราคาต่ำกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย
ทั้งนี้ให้สำนักงานเกษตรจังหวัด ช่วยกำกับดูแล ชี้แจงให้เกษตรกรใช้น้ำชลประทานอย่างประหยัดแล้ว ยังได้เน้นย้ำกรมชลประทานในการแบ่งแยกพื้นที่ให้ชัดเจนใน 4 พื้นที่ด้วยกันว่าอยู่พื้นที่ใดและจุดใดบ้างเพื่อกำหนดมาตรการในการดูแลเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ในอนาคตให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ได้แก่ 1. พื้นที่ทั้งหมดที่มีการปลูกพืชฤดูแล้ง 2. พื้นที่ทั้งหมดที่ประสบภัยน้ำท่วม 3. พื้นที่ในการจัดระบบปลูกข้าว และ 4. พื้นที่ที่เหมาะสมในการเป็นที่รองรับน้ำนอง ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับปริมาณได้ประมาณ 2.8 พันล้าน ลบ.ม.
สำหรับการวางแผนจัดสรรน้ำ กรม ชลประทานได้จัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ โดยจัดลำดับความสำคัญเริ่มจากเพื่อการอุปโภคบริโภคและการประปา เพื่อรักษาระบบนิเวศทางน้ำ เพื่อการเกษตรและการอุตสาหกรรม โดยในส่วนการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตรนั้นก็จะคำนึงถึงพื้นที่เกษตรกรรมที่ได้รับความเสียหายจากฤดูนาปี และพื้นที่ประสบอุทกภัย พื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ในรอบเวรการส่งน้ำ พื้นที่เกษตรกรรมที่ใช้น้ำน้อย และการปลูกข้าวนาปรังเพื่อเพิ่มรายได้
สำหรับปริมาณน้ำในพื้นที่ทุ่งเจ้า พระยานั้นคิดเป็นจำนวน 20,100 ล้าน ลบ.ม. เป็นประมาณน้ำใช้การได้ 18,000 ล้าน ลบ.ม. โดยกรมชลประทานคาดว่าจะจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตรจำนวน 13,200 ล้านลบ.ม. ที่เหลืออีก 4,800 ล้าน ลบ.ม.นั้น จะเป็นปริมาณน้ำสำรองเพื่อไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้า.
ที่มา http://www.legendnews.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=539365174